Home > ข่าวสารสถานทูต
แบ่งปันโอกาสใหม่จาก RCEP เปิดหน้าใหม่แห่งความร่วมมือแบบเปิดกว้าง
หาน จื้อเฉียง  เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย
2022-01-07 17:09

    วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค” (RCEP) โดยมีสมาชิก 15 ประเทศรวมทั้งจีน ประเทศอาเซียนและอื่น ๆ เริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ในการนี้ เขตการค้าเสรีที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ประชากรเข้าร่วมมากที่สุด องค์ประกอบหลากหลายที่สุดและมีศักยภาพการพัฒนามากที่สุดในโลกได้สร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ การที่ RCEP มีผลบังคับใช้ตามเวลากำหนด จะเป็นการเพิ่มพลังขับเคลื่อนใหม่สำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก และเป็นการสร้างโอกาสใหม่สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีน-อาเซียนและจีน-ไทย

    หลายปีที่ผ่านมา การพัฒนาของระบบพหุภาคีและโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจได้เจอแรงต้านทาน สหรัฐฯถอนตัวจากการเป็นภาคีของสนธิสัญญาต่าง ๆ  ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซ้ำเติมโดยการระบาดของโควิด-19 ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกขาดแคลนกำลัง  การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเกิดความผันผวน ห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ในโอกาสนี้ จีนและประเทศในภูมิภาคได้อาศัยความสามัคคีและความ เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ นานา ได้ประสบความสำเร็จในการบูรณาการและยกระดับกติกาการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเป็นครั้งแรก ทำให้ความตกลงที่ครอบคลุม ทันสมัย  มีคุณภาพและเอื้อประโยชน์ต่อกันมีผลบังคับใช้ แสดงให้สังคมโลกเห็นถึงเส้นทางที่ถูกต้องและเป็นธรรมแห่งระบบพหุภาคีนิยมและการค้าเสรี และเป็นการอัดฉีดแรงกระตุ้นเข้าสู่เศรษฐกิจโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน 

    ในฐานะประเทศสมาชิกแรก ๆ ที่ได้อนุมัติ RCEP  จีนและอาเซียนได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันมาโดยตลอด และได้นำร่องสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ร่วมกันพัฒนา “สายแถบและเส้นทาง” อย่างมีคุณภาพ  ร่วมกันนำทิศทางที่ถูกต้องสำหรับการรวมตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก และส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและผู้นำของประเทศอาเซียนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนสมัยพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ30 ปีความสัมพันธ์จีน-อาเซียน และประกาศสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นการกำหนดไมล์สโตนใหม่สำหรับการพัฒนาของความสัมพันธฺ์ระหว่างกัน แถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดได้แสดงความยินดีที่ RCEP มีผลบังคับใช้ โดยเน้นย้ำว่าจีนกับประเทศอาเซียนจะร่วมกันปฏิบัติตามความตกลงอย่างมีประสิทธิผล สร้างประโยชน์แก่ผู้ประกอบการและประชาชนในภูมิภาค ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายได้กระชับความร่วมมือในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมหลังการระบาดของโควิด-19  RCEP จะช่วยส่งเสริมให้จีนและประเทศอาเซียนใช้ประโยชน์จากจุดแข็งซึ่งกันและกัน สร้างสภาพแวดล้อมที่อำนวยต่อการค้าและการลงทุนในภูมิภาค และส่งเสริมให้ห่วงโซ่การผลิต ห่วงโซ่อุปทาน และห่วงโซ่มูลค่าผสมผสานอย่างบูรณาการ กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนโดยรวมของภูมิภาค และสร้างประโยชน์อันแท้จริงแก่ทั้งประชาชนจีนและประชาชนในประเทศอาเซียน 

    ประเทศจีนและประเทศไทยต่างส่งเสริมการค้าเสรีและสนับสนุนความร่วมมือในภูมิภาค RCEP ทำให้เกิดโอกาสสำหรับการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค จะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-ไทย จีนเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย 9 ปีติดต่อกัน ในปี พ.ศ. 2564 มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศทะลุหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐทั้งๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  วิสาหกิจจีนทางด้านอีคอมเมิร์ซ โทรคมนาคม ยานยนต์ และเซลล์แสงอาทิตย์ได้มาลงทุนสร้างโรงงานในประเทศไทย ขณะเดียวกันสินค้าเกษตร ยาง และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยได้รับความนิยมในตลาดจีน หลังจาก RCEP มีผลบังคับใช้ จีนและไทยจะเปิดตลาดมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ประมง การผลิตกระดาษ ชิ้นส่วนรถยนต์ และโลหะ รายการสินค้ากว่า 90%จะลดภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ในที่สุด ภาระผูกพันอย่างมีคุณภาพแบบระบุรายการที่ไม่เปิดเสรีสำหรับการลงทุน(Negative List)ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ภาคบริการ เช่น การเกษตรและการผลิต จะดึงดูดผู้ประกอบการจีนเข้ามาลงทุนและสร้างโรงงานในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การวางแผนและนโยบายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างกันสมบูณ์ยิ่งขึ้น  ข้อกำหนดเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซและทรัพย์สินทางปัญญาใน RCEP จะช่วยอำนวยความสะดวกต่อความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซข้ามชาติและเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างจีนไทย ส่งเสริมการไหลเวียนของทรัพยากรด้านนวัตกรรมระหว่างสองประเทศ และร่วมกันคว้าโอกาสใหม่ในยุคดิจิทัล 

    ปัจจุบันนี้ จีนกำลังเร่งสร้างรูปแบบการพัฒนาแบบการหมุนเวียนคู่ ส่งเสริมการพัฒนา “สายแถบและเส้นทาง” อย่างมีคุณภาพ  ขยายวงเพื่อนของการค้าเสรี และยกระดับความร่วมมือและการเปิดกว้างสู่ภายนอกอย่างต่อเนื่อง ประเทศจีนยินดีร่วมมือกับประเทศไทยและประเทศสมาชิกทั้งหลาย เพื่อใช้โอกาสใหม่ให้ดี ให้เกิดผลประโยชน์จาก RCEP เพิ่มพลังขับเคลื่อนใหม่สำหรับการฟื้นตัวและการพัฒนาของเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก เพื่อเป็นพลังบวกในการสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้างและเพิ่มผลประโยชน์ให้ชาวโลก 

Suggest To A Friend:   
Print