เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2023 ตามเวลาท้องถิ่น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดการประชุมระดับสูงเกี่ยวกับประเด็นปาเลสไตน์และอิสราเอลตามข้อเสนอของจีนในฐานะประธานหมุนเวียนในเดือนนี้ การประชุมดังกล่าวมีนายหวัง อี้ สมาชิก Political Bureau ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีต่างประเทศและผู้แทนระดับสูงจากเกือบ 20 ประเทศเข้าร่วม เช่น บราซิล ปาเลสไตน์ กาตาร์ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ อินโดนีเซีย ตุรกี สโลวีเนีย มาเลเซีย ฯลฯ รวมถึงสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงทั้งหมด นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติและนายทอร์ เวนส์แลนด์ ผู้ประสานงานพิเศษเพื่อกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว

หวัง อี้ กล่าวว่านับตั้งแต่ความขัดแย้งปาเลสไตน์และอิสราเอลรอบปัจจุบันปะทุขึ้น จีนได้ทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุสันติภาพและช่วยชีวิตผู้คน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวย้ำถึงจุดยืนหลักของจีนในสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล เรียกร้องให้มีการหยุดยิงและยุติสงครามโดยทันที ยับยั้งการขยายตัวของความขัดแย้ง และรักษาความปลอดภัยและความคล่องตัวของการบรรเทาทุกด้านมนุษยธรรม ท่านเน้นย้ำว่าทางออกที่ถูกต้องคือ “แนวทางสองรัฐ” หรือ two-state solution และส่งเสริมให้มีการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์อย่างครอบคลุม ยุติธรรม และยั่งยืน ประเทศจีนในฐานะประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนนี้เห็นว่าความขัดแย้งปาเลสไตน์และอิสราเอลเป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุดมาโดยตลอด คณะมนตรีความมั่นคงได้ผ่านมติที่ 2712 ในเดือนนี้ โดยดำเนินการเบื้องต้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการหยุดยิง ล่าสุดได้ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวบางส่วนและบรรลุการหยุดยิงได้สำเร็จ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการเจรจาต่อรองเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการช่วยชีวิตผู้คนและเป็นวิธีการพื้นฐานในการแก้ไขข้อขัดแย้ง

หวัง อี้ เน้นย้ำว่าความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลรอบปัจจุบันได้ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และผลกระทบที่ล้นหลามยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง สงครามทดสอบมโนธรรมและความยุติธรรม ในขณะที่สันติภาพเรียกร้องเหตุผลและสติปัญญา ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อช่วยชีวิตและฟื้นฟูสันติภาพ

เราต้องส่งเสริมการหยุดยิงอย่างครอบคลุมและยั่งยืนโดยคำนึงถึงความเร่งด่วนที่สุด ภายใต้สงครามไม่มีเขตปลอดภัย ไม่มีไฟร์วอลล์ในฉนวนกาซา จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการหยุดยิงชั่วคราวครั้งนี้จะไม่ใช่การหยุดชั่วคราวเพื่อรอการรุกรอบใหม่ แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการหยุดยิงอย่างครอบคลุมและถาวร การหยุดยิงที่ครอบคลุมและถาวรควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก และทุกฝ่ายควรมุ่งความพยายามทั้งหมดไปที่เป้าหมายร่วมกันในการยุติสงครามในฉนวนกาซา

เราต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและทรงพลังมากขึ้นเพื่อปกป้องพลเรือน ความรุนแรงและการโจมตีพลเรือนใดๆ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศควรได้รับการประณาม จีนขอย้ำถึงการต่อต้านการลงโทษประชาชนในฉนวนกาซาและการบังคับย้ายพลเรือนปาเลสไตน์ และควรปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมด จะต้องดำเนินการตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 2712 อย่างเต็มที่เพื่อขจัดอุปสรรคในการจัดหาและขนส่งสิ่งของด้านมนุษยธรรมที่เพียงพอเข้าสู่ฉนวนกาซา สหประชาชาติควรมีบทบาทมากขึ้นในการกำกับดูแลและประสานงานการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา รัฐบาลจีนเองก็จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินชุดใหม่แก่ฉนวนกาซาอีก

เราต้องฟื้นโอกาสของวิธีการทางการเมืองสำหรับ  “แนวทางสองรัฐ” หรือ two-state solution ด้วยความมุ่งมั่นและหนักแน่นยิ่งขึ้น อิสราเอลได้สถาปนารัฐเอกราชมาเป็นเวลานานแล้ว ชาวยิวก็ไม่ต้องเร่ร่อนแล้ว แต่สิทธิการมีรัฐของตนเอง สิทธิการอยู่รอด และสิทธิการกลับบ้านของชาวปาเลสไตน์กลับถูกเพิกเฉยมานาน นี่คือปมของความวุ่นวายที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล ความเป็นธรรมและความยุติธรรมสำหรับประเด็นชาวปาเลสไตน์คือ “แนวทางสองรัฐ” หรือ two-state solution ไม่มีสิ่งอื่นแทนที่ได้ มีเพียง “แนวทางสองรัฐ” หรือ two-state solution ถูกปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและครอบคลุมเท่านั้นจึงจะสามารถบรรลุสันติภาพในตะวันออกกลางได้ ปาเลสไตน์และอิสราเอลจึงจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ชาติอาหรับและชาวยิวก็จะพัฒนาร่วมกันได้ จีนเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามทางการทูตระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค ฟื้นฟูโอกาสของวีการทางการเมืองสำหรับ  “แนวทางสองรัฐ” หรือ two-state solution  และเริ่มต้นการเจรจาโดยตรงระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลอีกครั้ง จีนเสนอให้จัดการประชุมสันติภาพระหว่างประเทศที่ขยายวงมากขึ้น มีขอบเขตกว้างมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสนับสนุนปาเลสไตน์ให้เข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติโดยสมบูรณ์

เราจำเป็นต้องผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติดำเนินการที่แสดงถึงบทบาทหน้าที่อย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะต้องสะท้อนถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในประเด็นสำคัญเรื่องสงครามและสันติภาพ เรื่องความเป็นความตายมากขึ้น ฟังเสียงจากชาติอาหรับและอิสลาม ตลอดจนเสียงของประชาคมระหว่างประเทศ และดำเนินการก่อนจะสายเกินไป จีนได้ยื่นรายงาน “จุดยืนจีนว่าด้วยการแก้ไขความขัดแย้งปาเลสไตน์และอิสราเอล” พร้อมเสนอ 5 ข้อเสนอแนะสำคัญในการทำงาน ได้แก่ ข้อเสนอการหยุดยิงและการยุติสงครามในทุกมิติ ข้อเสนอการปกป้องพลเรือนอย่างจริงจัง ข้อเสนอการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ข้อเสนอการแก้ปัญหาด้วยการทูต และข้อเสนอ “แนวทางสองรัฐ” หรือ two-state solution เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการเมือง เราจะเสริมสร้างการประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป เราจะสร้างฉันทามติและผลักดันคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้รับความรับผิดชอบนี้  เพื่อปฏิบัติตามความรับผิดชอบด้านสันติภาพและส่งเสียงแห่งความยุติธรรม

ทุกฝ่ายได้ชื่นชมข้อเสนอของจีนที่ให้จัดการประชุมระดับสูงในประเด็นปาเลสไตน์และอิสราเอลครั้งนี้ขึ้น และเชื่อว่าการประชุมซึ่งจัดขึ้นในวันสากลแห่งความเป็นปึกแผ่นกับประชาชนปาเลสไตน์ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการหยุดยิงและการยุติสงคราม และบรรเทาวิกฤติด้านมนุษยธรรม เอื้อต่อการระดมความคิด การสร้างฉันทามติ และการรวมพลังของทุกฝ่าย ซึ่งทุกฝ่ายสนับสนุนการขยายเวลาการหยุดยิงชั่วคราวจนกว่าจะบรรลุการหยุดยิงถาวร โดยเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกัน คุ้มครองความปลอดภัยของพลเรือน เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และรับรองการเข้าถึงเสบียงได้อย่างราบรื่น เป็นที่คาดหวังว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะปฏิบัติตามความรับผิดชอบในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิผล มีบทบาทมากขึ้นในการบรรเทาความตึงเครียด เริ่มกระบวนการสันติภาพโดยเร็ว และบรรลุการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลในที่สุด

ในระหว่างการประชุม หวัง อี้ได้พบกับนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ นางทันยา ฟายอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศสโลวีเนีย นาย เมาโร วีร่า รัฐมนตรีต่างประเทศบราซิล และนายแซมบรี อับดุล คาดีร์  รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียตามลำดับ นอกจากนี้ ยังได้พบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศอาหรับและอิสลามพร้อมกัน ได้แก่ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ กาตาร์ ตุรกี อินโดนีเซีย เป็นต้น