Home > รายงานพิเศษ > คอลัมน์ข้อมูลไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน – อาเซียนเห็นพ้องกันว่าต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เสริมสร้างความมั่นใจและเอาชนะความยากลำบากไปด้วยกัน โดย ฯพณฯ หวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน
2020-02-22 18:52

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ภายหลังการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน-อาเซียนสมัยพิเศษเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ฯพณฯ หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน พร้อมด้วย ฯพณฯ สะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ และ ฯพณฯ ล็อกซิน จูเนียร์ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ได้ร่วมกับพบปะผู้สื่อข่าว

ฯพณฯหวัง อี้กล่าวว่า เมื่อสักครู่นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน – อาเซียนได้บรรลุความสำเร็จในการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจีน-อาเซียน สมัยพิเศษ เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ประชุมได้มีฉันทามติร่วมกันในเรื่องการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสระหว่างจีน – อาเซียน พวกเราเห็นพ้องกันว่าทุกฝ่ายต้องรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เสริมสร้างความมั่นใจและเอาชนะความยากลำบากไปด้วยกัน รัฐมนตรีต่างประเทศบางท่านยังเสนอให้มีการประชุมผู้นำจีน - อาเซียนสมัยพิเศษเพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการยกระดับความร่วมมือด้านสาธารณสุขและส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนในภูมิภาค

ในระหว่างการประชุม ยังมีการประชุมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระหว่างจีนและอาเซียนด้วยรูปแบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยได้มีการแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับแนวทางการวินิจฉัยและประสบการณ์ในการรักษาโรค

นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนได้ยืนเคียงข้างและสนับสนุนประเทศจีนในการต่อสู้กับโรคระบาดอย่างน่าอบอุ่นใจและและมีคุณค่าอย่างยิ่ง รัฐบาลประเทศต่างๆ ได้แสดงความห่วงใยและยื่นมือเข้าช่วยเหลือประเทศจีน อีกทั้งประชาชนในประเทศต่างๆ ก็ได้สมัครใจบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประเทศจีน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงประเพณีอันดีระหว่างจีน – อาเซียนที่มีการสนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พวกเราจะจดจำมิตรแท้ในยามยากเหล่านี้อย่างไม่มีวันลืม

ฯพณฯ หวัง อี้กล่าวว่า ภายใต้การบัญชาการโดยตรงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประเทศจีนได้สร้างระบบป้องกันและควบคุมโรคแบบเดียวกันทั่วประเทศ ประชาชนทั้งประเทศได้รวมใจเป็นหนึ่ง เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดไปด้วยกัน จนเริ่มประสบผลที่ดี มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงเรื่อยๆ จำนวนผู้หายดีก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีแนวทางการรักษาที่ได้ผลดียิ่งขึ้น ทำให้อัตราส่วนของผู้ที่หายดีจากโรคมีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การทำการใหญ่ย่อมต้องผ่านอุปสรรคนานัปการ พวกเราเชื่อมั่นว่าด้วยการต่อสู้อย่างเป็นเอกภาพของชาวจีนและการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของประเทศในอาเซียนและประชาคมระหว่างประเทศ ประเทศจีนจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

ตั้งแต่เกิดโรคระบาด รัฐบาลจีนได้ยึดหลักความโปร่งใส เปิดกว้างและความรับผิดชอบในการแบ่งปันข้อมูลกับประเทศต่าง ๆ อย่างทันท่วงที พร้อมกับใช้มาตรการที่เด็ดขาด ทำให้สามารถสกัดการแพร่ระบาดไปยังทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนถึงปัจจุบัน ผู้ติดเชื้อภายนอกประเทศจีนมีเพียง 1% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ซึ่งเบื้อหลังคือความพยายามสูงสุดและการเสียสละอย่างใหญ่หลวงของรัฐบาลและประชาชนจีน เรื่องนี้ได้รับความสำคัญอย่างมากจากประเทศอาเซียน องค์การอนามัยโลกและประชาคมระหว่างประเทศต่าง โดยต่างก็ได้ยกย่องว่าจีนได้สร้างคุณูปการอย่างยิ่งใหญ่ต่อการรักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพระดับภูมิภาคและระดับโลก

ฯพณฯ หวัง อี้กล่าวว่า จีนและอาเซียนมีสัมพันธ์ใกล้ชิดเหมือนพี่เหมือนน้อง และมีโชคชะตาร่วมกัน ดังนั้น เมื่อเผชิญกับโรคระบาด ทางเลือกเดียวคือสามัคคีกันและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด พวกเราเห็นตรงกันว่าจะใช้วิกฤติในการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้เป็นโอกาสในการสร้างความพยายามร่วมกันในด้านต่างๆ ต่อไปนี้

ประการแรกคือการเสริมสร้างการเชื่อมต่อและการป้องกันและควบคุมโรคร่วมกัน ผลักดันการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานด้านสุขภาพ การกักกันโรค การขนส่ง และการตรวจคนเข้าเมืองของทั้งสองฝ่ายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคภายในภูมิภาค แบ่งปันข้อมูลโรคระบาด มาตรการป้องกันและควบคุมโรค ตลอดจนผลการวิจัยอย่างทันท่วงที จัดการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างจีน - อาเซียน โดยเชิญรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมเพื่อสรุปประสบการณ์และความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคระบาดในครั้งนี้

ประการที่สองคือการสร้างกลไกความร่วมมือในระยะยาว เช่นการสร้างกลไกการประสานงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างจีน – อาเซียน การจัดตั้งคลังสิ่งของบรรเทาทุกข์จีน – อาเซียนกรณีเกิดโรคระบาด ยกระดับความรวดเร็วในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และเสริมสร้างความสามารถด้านหลักประกันเกี่ยวกับสิ่งของบรรเทาทุกข์ ขยายบทบาทของที่ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขจีน - อาเซียน ใช้กองทุนความร่วมมือจีน – อาเซียนเพื่อสนับสนุนโครงการความร่วมมือด้านสุขภาพมากขึ้น และผลิตบุคลากรที่รับมือกับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้น

ประการที่สามคือเอาชนะความตื่นตระหนกอย่างมีหลักเหตุผล เคารพข้อเสนอแนะที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้ขององค์การอนามัยโลก ประเมินความคืบหน้าของการป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างทันท่วงที ฟื้นฟูความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมและการไปมาหาสู่ของบุคลากรโดยเร็วที่สุดโดยพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงของแต่ละประเทศ

ประการที่สี่คือการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส บ่มเพาะความร่วมมือด้านใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตไปด้วยกัน ในขณะที่โรคระบาดนำความท้าทายอย่างมากมาให้เรานั้น มันได้เร่งให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ ด้วย ปีนี้เป็นปีแห่งความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างจีน – อาเซียน พวกเราสามารถเสริมสร้างความร่วมมือในด้านอีคอมเมิร์ซ การชำระเงินผ่านมือถือ และความร่วมมืออื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อยให้สามารถใช้ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อฟื้นฟูธุรกิจของพวกเขาได้ สร้าง "City Brain" ที่มีความอัจฉริยะ มีความเข้มข้น และมีหลักมนุษยธรรมโดยอาศัยการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเมืองอัจฉริยะ ยกระดับการตอบสนอง การตัดสินใจและความสามารถในการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน

ฯพณฯ หวัง อี้กล่าวว่า ความตื่นตระหนกน่ากลัวกว่าไวรัส ความมั่นใจสำคัญกว่าทองคำ แม้สถานการณ์โรคระบาดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนในระดับหนึ่ง แต่จะส่งผลเพียงชั่วคราวและอยู่ในวงจำกัดเท่านั้น และแม้สถานการณ์โรคระบาดจะเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน - อาเซียนบ้าง แต่เราสามารถเอาชนะมันได้ และสามารถหาหนทางชดเชยได้ เศรษฐกิจจีนมีแรงผลักดันและความยืดหยุ่นสูงมาก ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาในระยะยาวจะไม่เปลี่ยนแปลง ผลประโยชน์ของจีน – อาเซียนนั้นมีความลงตัวอย่างมาก ห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมมีการเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เมื่อโรคระบาดผ่านพ้นไป จะทำให้เกิดความต้องการในความร่วมมืออย่างรวดเร็ว ทำให้ความร่วมมือของสองฝ่ายกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง อีกทั้งยังจะขยายพื้นที่ความร่วมมือเพิ่มมากขึ้น พวกเราเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีน – อาเซียนจะก้าวสู่ระดับที่สูงกว่าจากการร่วมกันต่อสู้กับโรคระบาด และการสร้างชุมชนร่วมชะตากรรมระหว่างจีน - อาเซียนก็จะได้รับการส่งเสริมอย่างแข็งขันมากขึ้นภายหลังก้าวผ่านบททดสอบนี้ไปแล้ว

Suggest To A Friend:   
Print